เอ็มเทค สวทช.” ร่วมกับจุฬาฯ จัดเวทีชิงแชมป์ออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ ครั้งที่ 12 (RDC 2019)
เฟ้นสุดยอดเยาวชนเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ “IDC RoBoCon 2019” ที่สหรัฐอเมริกา


ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการแข่งขันระดับประเทศ รอบชิงชนะเลิศ โครงการพัฒนาทักษะการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ปี 2562 (The 12th Robot Design Camp 2019 : RDC 2019) เพื่อคัดเลือกตัวแทนทีมประเทศไทยเข้าร่วม การแข่งขันระดับนานาชาติ International Design Contest RoBoCon 2019 : IDC RoBoCon 2019 ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา


          
ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะประธานโครงการ RDC 2019 กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ทั้งในวงการแพทย์ การศึกษา การเกษตร ภาคการผลิตและอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เอ็มเทค สวทช. ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการจัดโครงการพัฒนาทักษะการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ (Robot Design Contest) อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนแสดงความสามารถด้านการออกแบบสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และกระบวนการทางวิศวกรรม รวมถึงเรียนรู้สถานการณ์จำลองการทำงานจริง เพื่อนำไปสู่การออกแบบ การสร้างหุ่นยนต์ และพิชิตโจทย์ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด


          
สำหรับในปี 2562 นี้ โครงการพัฒนาทักษะการออกแบบและการสร้างหุ่นยนต์ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 (The 12th Robot Design Camp 2019 : RDC 2019) ภายใต้แนวคิด "Robot for a Greener Planet" โดย เอ็มเทค ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายภูมิภาค ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันรอบคัดเลือกใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/ภาคตะวันออก (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี) และภาคใต้ (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) ตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2562 โดยมีนักศึกษาสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 202 คน จาก 37 สถาบันการศึกษา และนักศึกษาที่ผ่านคัดเลือกเข้าแข่งขันระดับประเทศจำนวน 88 คน จาก 32 สถาบันการศึกษา และได้จัดให้มีการแข่งขันระดับประเทศ ในระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม – 7 มิถุนายน 2562 โดยเก็บตัวที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อออกแบบและสร้างหุ่นยนต์เพื่อปฏิบัติภารกิจภายใต้โจทย์ที่กำหนดคือ "Robot for a Greener Planet"เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบขนส่งมวลชนทางรางที่ตอบโจทย์เมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้านการลงทุนและทางเศรษฐกิจ ทำให้ระบบรถไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึงยังบ้านหรือสถานที่ต่างๆได้ทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีระบบขนส่งระบบรองที่สามารถพาผู้โดยสารที่อยู่ตามบ้านหรือตามจุดรับส่งต่าง ๆ ไปส่งยังสถานีรถไฟฟ้าระบบรางที่ใกล้ที่สุดได้อย่างสะดวก ประหยัด และรวดเร็วได้ หรือที่เรียกว่า First Mile/Last Mile Service และจัดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ โดยทีมชนะเลิศจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ International Design Contest RoBoCon 2019 : IDC RoBoCon 2019 ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2562 ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา
 

         


"เอ็มเทค สวทช. มีความมุ่งมั่นที่จะใช้เวทีการพัฒนาทักษะการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 12 ซึ่งนอกเหนือจากการคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถด้านการประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่าง IDC RoBoCon 2019 ที่จะจัดขึ้นที่สหรัฐเมริกาแล้วยังเป็นการเปิดโอกาสและส่งเสริมให้เยาวชนได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์มากขึ้น นอกจากนี้ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้มีโอกาสในการฝึกฝนทักษะและพัฒนาความสามารถด้านการสร้างและออกแบบหุ่นยนต์ การเขียนโปรแกรม และเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้เป็นกลไกสำคัญในการเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้พัฒนาและก้าวหน้าต่อไปในอนาคต" ดร.จุลเทพ กล่าวในตอนท้าย